รวมเมนูยอดฮิต 20 อาหารเหนือสไตล์ล้านนา

by | Feb 10, 2021 | อาหารเหนือ | 0 comments

ลำแต้ๆ พบกับอาหารเหนือเมนูฮิต มีทั้งอาหารจานเดียว เมนูกับข้าว และเครื่องจิ้ม ความอร่อยเน้น ๆ   อาหารภาคเหนือ มีอะไรบ้าง ? ถ้าให้ลิสต์ออกมาคงไม่หมด วันนี้เราขอรวบรวมอาหารเหนือหลากหลายเมนู มีทั้งเมนูที่ทุกท่านคุ้นเคย และเมนูที่อีกหลายท่านอาจจะไม่คุ้นเคย

แม้ไม่ได้เป็นคนท้องถิ่นแต่ชอบกินก็ลองทำเองได้นะคะ วันนี้ขอนำเสนอวิธีทำอาหารเหนือเมนูฮิต เช่น ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกอ่อง และเมนูอาหารเหนืออื่น ๆ ที่น่าสนใจ บอกเลยว่าไม่ยากทำตามได้สบาย

  1. น้ำพริกอ่อง

เริ่มกันที่เมนูน้ำพริกอ่องหมูสับ สูตรนี้ใส่เต้าเจี้ยวแทนถั่วเน่า มาพร้อมวิธีทำเครื่องแกงน้ำพริกอ่อง ใส่หมูสับเน้น ๆ ตามชอบ แกล้มกับผักสดยิ่งอร่อย

ส่วนผสมน้ำพริกอ่อง

  • พริกแห้ง 1 กำมือ (ปริมาณเพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • กระเทียม 5-8 กลีบ
  • หอมแดง 5 หัว
  • รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือเทศหั่นชิ้น 1 ถ้วย
  • หมูสับ 500 กรัม
  • น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำพริกอ่อง

     1. ทำน้ำพริกอ่องโดยเอาพริกไปปั่น จากนั้นนำมาใส่ครก ใส่เกลือนิดหน่อย ตามด้วยกระเทียม หอมแดง และรากผักชี หรือก้านผักชี ตำพอแหลกใส่กะปิ ใส่เต้าเจี้ยวแทนถั่วเน่า ตำรวมกับน้ำพริก ตำละเอียดแล้วแต่ชอบ

     2. เริ่มผัดโดยใส่น้ำมันในกระทะ เปิดไฟกลางค่อนไปอ่อน ใส่น้ำพริกที่ตำไว้ลงผัดให้หอม ใส่หมูสับ ถ้าติดมันจะอร่อยมาก ผัดให้หมูสุกดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก ผัดให้เข้ากัน พอมะเขือเทศสุกเปื่อยแล้วชิมรสตามชอบ

     3. ตักใส่ถ้วยพร้อมผักสด ๆ ตามชอบ กินกับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยถูกใจ

2. ข้าวซอยไก่

เริ่มด้วยอาหารเหนือเมนูฮิตสุดคลาสสิกอย่างเมนูข้าวซอยไก่ ใครจะใช้น้ำพริกข้าวซอยสำเร็จรูปก็ได้ หรืออยากทำน้ำพริกข้าวซอยเองก็เตรียมครกโขลกให้สนุกสนาน สูตรนี้ใช้บะหมี่เหลืองแทนเส้นข้าวซอยและกรอบข้าวซอย กินกับน่องไก่ต้มจนเปื่อย บีบมะนาวแล้วแกล้มกับหอมแดงและผักกาดดองตัดเลี่ยน

ส่วนผสมข้าวซอยไก่

  • เนื้อไก่สับ 300 g
  • เนื้อน่องไก่ติดสะโพก 4 ชิ้น (850 g)
  • กะทิ 600 ml
  • น้ำสะอาด 600 ml
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
  • ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ลูกผักชีคั่วป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกแกงเผ็ด 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม ข้าวซอย และเครื่องเคียง

  • เส้นบะหมี่เหลือง 5 ก้อน
  • เส้นบะหมี่ทอดกรอบ
  • พริกป่นคั่วน้ำมัน
  • พริกแห้งทอด
  • มะนาวสด
  • น้ำปลา
  • หอมแดงซอย
  • ผักกาดดองซอย
  • ต้นหอมผักชี

วิธีทำข้าวซอยไก่

  1. เริ่มจากการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดกับน้ำมันพอหอมๆ ใส่ลูกผักชีคั่วป่น ผงกะหรี่ ผงขมิ้น ผัดให้หอมเลย เติมหัวกะทิลงไป ค่อยๆ ผัดให้ให้กะทิแห้ง เคี่ยวแบบนี้ 3 รอบ เพื่อให้เข้มข้นดี จากนั้นใส่เนื้อไก่สับลงไปผัดให้สุก เติมหัวกะทิ น้ำสะอาด ต้มให้เดือด
  2. ใส่เนื้อน่องไก่ลงไปต้มให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำปลา เกลือ ต้มต่อจนเนื้อไก่สุกนุ่มดี ชิมรสปรุงให้ได้ตามชอบ
  3. การเตรียมเส้นบะหมี่ ต้มน้ำให้เดือดใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เส้นบะหมี่ติดกัน พอน้ำเดือดเอาเส้นบะหมี่ลงไปลวกให้สุก ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที โดยใช้ตะเกียบคนไปมาให้เส้นสุกทั่วถึง สุกแล้วตักแช่น้ำเย็นไว้เพื่อไม่ให้เส้นสุกต่อ
  4. การเสิร์ฟข้าวซอย ตักเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้ใส่ชาม ตักน่องไก่ใส่ลงไปราดน้ำแกงให้ทั่วๆ ใส่ผักกากดอง หอมแดงซอย พริกป่นคั่วน้ำมัน มะนาวสด พริกแห้งทอด ใส่เส้นบะหมี่กรอบลงไป โรยต้นหอมผักชี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

3.  ขนมจีนน้ำเงี้ยว    

อยากกินน้ำเงี้ยวกับขนมจีน แต่ครั้นจะไปหาซื้อก็หายากเหลือเกิน สงสัยต้องทำกินเองแล้วล่ะ ขอนำเสนอเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกน้ำเงี้ยว หรือใครไม่สะดวกตำเองก็ไปหาซื้อแบบสำเร็จรูปก็ได้ ชอบรสจัดแค่ไหนก็จัดเลยค่ะ

ส่วนผสมขนมจีนน้ำเงี้ยว

  •    ​​  ​​​​ ​​​เส้นขนมจีนอบแห้ง 200 กรัม
  •    ​​  ​​​​ ​​​​​​กระดูกหมู 300 กรัม
  •    ​​  ​​​​ ​​​​​​เนื้อหมูบด 200 กรัม
  •    ​​  ​​​​ ​​​​มะเขือเทศ 2 ถ้วย
  •    ​​  ​​​​ ​​​พริกแห้งแช่น้ำ 1/2 ถ้วย (เม็ดเล็กและใหญ่)
  •    ​​  ​​​​ ​​​​​ข่า 3 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​​ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ (หรือก้านผักชี)
  •    ​​  ​​​​ ​​​​​​หอมแดง 1/3 ถ้วย
  •    ​​  ​​​​ ​​​​กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​กะปิ 1 ช้อนชา
  •    ​​  ​​​​ ​​​​เกลือ 1 ช้อนชา
  •    ​​  ​​​​ ​​​​เต้าเจี้ยว 4 ช้อนโต๊ะ (หรือถั่วเน่า)
  •    ​​  ​​​​ ​​​​น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​น้ำเปล่า 6 ถ้วย

วิธีการทำเส้นขนมจีน

  1. นำเส้นขนมจีนไปต้มในน้ำเดือด 5 นาที แล้วตักขึ้นแช่ในน้ำธรรมดา แล้วก็ใช้มือซาวเส้นขึ้นพักบนจาน แล้วแต่ชอบว่าจะจับเล็ก จับใหญ่ หรือจับเป็นกลม ๆ แบบในสูตร

วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว

     1. นำกระดูกหมูมาหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ ล้างน้ำแล้วก็ใส่หม้อต้มกับน้ำเปล่า ต้มน้ำทิ้งไปครั้งแรก เพราะว่าเวลาต้มจะมีเศษเลือด เศษกระดูก พอล้างออกไปสักหนึ่งน้ำก่อนแล้วก็เอามาตั้งเตาใส่น้ำต้มอีกครั้งให้กระดูกหมูเปื่อยนุ่ม

     2. ทำน้ำพริกแกงน้ำเงี้ยว โดยเอาพริกเม็ดใหญ่และเม็ดเล็กแช่น้ำให้นิ่มแล้วใส่โถปั่น ใส่ข่าหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่รากผักชีสับละเอียด (ในสูตรใช้ก้านผักชีแทน) ใส่ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย กระเทียมปอกเปลือกล้างน้ำ เกลือ และกะปิ ปั่นพอละเอียด ใส่ลูกผักชีและยี่หร่าคั่วแล้วตำมา ปั่นจนละเอียดเข้ากัน

     3. นำกระทะตั้งไฟใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชนิดหน่อยแล้วนำน้ำพริกแกงมาผัดให้หอม ใส่หมูสับผัดพอสุก ใส่มะเขือเทศผ่าเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงผัดให้มะเขือสุกนิ่ม

     4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลาหรือเกลือ และเต้าเจี้ยว ผัดให้เข้ากันใส่ลงในก็หม้อต้มน้ำซุปกระดูกหมู ช่วงนี้หากมีเลือดหมูหรือเลือดไก่ก็ใส่ได้เลย ชิมรสชาติให้ถูกใจ เคี่ยวต่ออีกประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่ากระดูกหมูจะเปื่อยตามชอบ โรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟกับขนมจีน ผักต่าง ๆ และพริกป่นทอด (วิธีทำพริกป่นทอดก็ตั้งเตาใช้ไฟอ่อนใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่พริกป่นคั่วลงไปทอดสักครู่แล้วก็ตักขึ้นทั้งน้ำมันและพริกใส่ถ้วยไว้)

4. ไส้อั่ว

ใครคิดถึงรสชาติอร่อย ๆ ของเมนูไส้อั่วเหมือนกันบ้าง ถ้าหาซื้อยากเย็นนักก็ทำเองเลยสิคะ ขอนำเสนอเมนูไส้อั่ว มาพร้อมสูตรเครื่องแกง จับไปเคล้ากับหมูสับจนเข้ากันแล้วยัดใส่ไส้หมู สุดท้ายเอาไปย่างจนสุกหอม

ส่วนผสมไส้อั่ว

  •    ​​  ​​​​ ​​​​เนื้อหมูติดมัน 1 กิโลกรัม (ในสูตรใช้หมูสามชั้นเนื้อเยอะ)
  •    ​​  ​​​​ ​​​​เครื่องแกงไส้อั่ว 3 ช้อนโต๊ะ (สูตรอยู่ด้านล่าง)
  •    ​​  ​​​​ ​​​​ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​ไส้หมูสำหรับยัดไส้
  •    ​​  ​​​​ ​​​​ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​​ต้นหอมกับผักชีซอย 1/2 ถ้วย
  •    ​​  ​​​​ ​​​​น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  •    ​​  ​​​​ ​​​​ต้นหอมกับผักชีซอยละเอียด 1 ถ้วย

เครื่องแกงไส้อั่ว

  • ​  ​​​​ ​​​พริกแห้งเม็ดใหญ่ แช่น้ำ 2 เม็ด
  • ​​  ​​​​ ​​​พริกขี้หนูแห้ง แช่น้ำ 15 เม็ด
  • ​​  ​​​​ ​​​​เกลือ
  • ​​  ​​​​ ​​​​  ข่า 3 ช้อนโต๊ะ
  • ​​  ​​​​   ​​ตะไคร้ 3 ต้น
  •      ​​รากผักชี 3 ช้อนโต๊ะ
  •      กระเทียม 1 หัวใหญ่
  •    ​​  ​​​​ หอมแดง 6 หัว
  •    ​​   ​​​​​​ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​กะปิ 1 ช้อนชา
  •    ​​  ​​​​ ​​​ขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  •    ​​  ​​​​ ​​​ลูกผักชีกับยี่หร่าคั่วตำ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไส้อั่ว

     1. ทำเครื่องแกงไส้อั่ว โดยใส่พริกลงไปตำกับเกลือ ตามด้วยข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง ผิวมะกรูด กะปิ ขมิ้น ลูกผักชีและยี่หร่าคั่ว ตำละเอียดตามชอบ หากใครไม่มีเวลาตำน้ำพริกแกงเองก็ใช้น้ำพริกแกงเผ็ดก็ได้ แต่ขอให้ตำตะไคร้และข่ามากขึ้นกว่าปกติ ใส่ขมิ้นตำด้วย จะได้พริกแกงที่หอมเครื่องเทศ ถ้าไม่ใส่เพิ่มก็ไม่หอม

     2. ใส่หมูสับติดมันลงไปในอ่างผสม ตามด้วยน้ำพริกแกง คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย นวดทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูดซอยฝอย ต้นหอมกับผักชีซอย แล้วก็นวดให้ทุกอย่างเข้ากัน ลองตักส่วนผสมสักนิดหน่อยใส่ถ้วยเข้าไมโครเวฟชิมรสตามชอบ

     3. เอาไส้ออกมาหมักเกลือเสร็จแล้วเอามาล้างน้ำ 1 รอบ และก็เอาน้ำส้มสายชูมาล้างอีก 1 รอบ และสุดท้ายเอาแป้งสาลีอเนกประสงค์มาคลุกขยำ ๆ แล้วล้างน้ำออกไปอีก 1 รอบ เพื่อความสะอาด จะไม่มีกลิ่นเลย จัดการเอาขวดน้ำตัดออกเหลือส่วนหัวสำหรับยัดไส้ ค่อย ๆ ยัดไส้อั่วไปให้สวยงาม จะเอาไปทอด หรือบางคนเขาจะเอาไปนึ่งก่อนแล้วค่อยเอาไปย่าง ทอด หรืออบ ในสูตรเลือกที่จะอบ เพราะง่ายสะดวก ไม่ต้องติดเตา ไม่ต้องนึ่งก่อน เข้าเตาอบ ไม่อมน้ำมันด้วย

     4. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ อบด้านละ 15 นาที หรือคอยกลับดูจนไส้อั่วสุกทั่ว หั่นเป็นชิ้นจัดเสิร์ฟ

5. แกงกระด้าง

  แกงกระด้าง หรือที่คนเหนือเรียกแกงหมูกระด้าง แกงหมูหนาว คือการนำขาหมูในส่วนที่มีเอ็นมาก ปรุงให้รสชาติเข้มข้น ได้สีส้มจากพริกแห้ง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัว จนมีลักษณะคล้ายวุ้น ถือเป็นเมนูพื้นบ้านที่หาทานยาก

 ส่วนผสมแกงกระด้าง

  • กระดูกหมู สำหรับต้มทำให้น้ำซุปหวาน
  • กะโหลกหมู ไม่มีไม่ใช้ก็ได้ แต่ส่วนนี้จะมีเจลลาตินมาก ทำให้แกงกระด้างเร็ว
  • ขาหมู 1 ขา และ ขากิ(ตีนหมู)
  • รากผักชี
  • ข่า 3 แว่น
  • ตะไคร้ 2 หัว หั่นท่อนทุบ
  • ใบมะกรูด
  • ผักชีต้นหอมซอย

เครื่องแกงกระด้าง

  • กระเทียม 10 กลีบ
  • หอมแดง 5 หัว
  • ตะไคร้ 1 หัว
  • พริกแห้ง ปริมานตามใจชอบ แนะนำแกงกระด้างไม่นิยมรสเผ็ดมาก
  • พริกไทย ปริมานเล็กน้อย
  • รากผักชี
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด พริกชนิดนี้ มีรสเผ็ดไม่มาก แต่ให้กลิ่นที่หอม และทำให้น้ำแกงเป็นสีแดง
  • โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำแกงกระด้าง

1. ต้มน้ำให้เดือด ปริมานท้วมหมูทั้งหมด ใส่ตะไคร้ทุบ ข่า ใบมะกรูด รากผักชีลงต้มด้วย เอาหมูทั้งหมดลงต้ม ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานหน่อย ตักฟองออกทิ้งตลอด ต้มจนหมูเปื่อยเกือบเละ

2. นำหมูที่สุกเปื่อนแล้วมาแกะ แคะ แยกหมูส่วนที่เป็น เนื้อ หนัง เอ็น ออกจากกระดูก หั่นชิ้น กระดูกทิ้งไปให้หมด

3. ตั้งกะทะ นำพริกแกงที่โขลกไว้แล้ว ลงผัดให้หอม อย่าให้ไหม้ ไฟกลางๆ

4. นำพริกแกงที่ผัดหอมแล้ว เทลงหม้อน้ำซุปต้มหมู ตั้งไฟน้ำซุปให้เดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามใจชอบ เป็นที่พอใจแล้ว ปิดไฟ ใช้ผ้าขาวบางหรืออะไรก็ได้ กรองเอาแต่น้ำซุป (กากเครื่องแกง และอื่นๆในหม้อ ทิ้งหมด เราไม่ใช้แล้ว เอาแต่น้ำซุป)

5. นำหมูที่หั่นชิ้นแล้ว เทลงน้ำซุปที่ได้จากการกรอง ตักใส่ถาด รอเย็น แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น

6. ก่อนทานที่ขาดไม่ได้ โรยผักชีต้นหอม

6. แกงผักกูด

ใครที่ชอบกินผักก็น่าจะรู้จัก “ผักกูด” ผักพื้นบ้านไทย ๆ ที่เวลาเข้าหน้าฝนทีไรก็มักจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าแผงผักนำยอดผักกูดมาวางขายเป็นมัด ๆ นำไปทำเมนูอร่อย ๆ ได้หลากหลายเมนูเลยทีเดียว ส่วนในวันนี้เราจะจับยอดอ่อนผักกูดมาทำแกงไทยแท้อร่อย ๆ กับเมนูแกงผักกูดใส่ปลา ตักกินกับข้าวสวยร้อน ๆ บอกได้คำเดียวว่าฟินสุโค่ย !

ส่วนผสมแกงผักกูด

  • ยอดผักกูดหั่นหยาบ 1 ถ้วย
  • ปลาอะไรก็ได้เช่น ปลากดุก ปลานิล แลาทู หั่นชิ้น 1 ตัว
  • น้ำมะกรูด
  • มะเขือเทศ

เครื่องแกงผักกูด

  • พริกสด 5 เม็ด ปริมานตามใจชอบเผ็ด
  • ตะไคร้ 1 หัว
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • ปลาร้า 3/4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงผักกูด

1.ตั้งน้ำเปล่า 1 ถ้วย รอเดือด ใส่เครื่องแกง รอเดือด

2.นำปลาดุกลง ห้ามคน จะทำให้คาว รอเดือด

3.ใส่ผักกูด มะเขือเทศ รอสุก ปรุงรสด้วยน้ำมะกรูด น้ำปลา ปิดไฟ

7. แกงผักหละไข่มดแดง

ผักหละ นิยมนำมาแกงกับผักอื่นๆ เช่น แกงหน่อไม้ แกงถั่วฝักยาว แกงแค แกงโฮะ แกงเห็ดหูหนู หรือแกงเฉพาะชะอมอย่างเดียว เรียกแกงผักหละ มักจะแกงใส่ปลาแห้ง ไข่มดแดง หรือปลาย่างผสมลงไปด้วยเพื่อนความฟินนะคะทุกคน !

ส่วนผสมแกงผักหละไข่มดแดง

  • ผักป่อก้า
  • ชะอม
  • เห็ดฟาง
  • เห็ดหูหนู
  • ไข่มดแดง

เครื่องแกงผักหละไข่มดแดง

  • พริกแห้งหรือพริกขี้หนูก็ได้ 5 เม็ด
  • กระเทียม 5 เม็ด
  • หอมแดง 5 หัว
  • กะปิ หรือปลาร้าบด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ 1 หัว
  • โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำแกงผักหละไข่มดแดง

1. ตั้งหม้อต้มน้ำรอเดือด ละลายเครื่องแกงลงในน้ำเดือด

2. ใส่เห็ดฟาง เห็ดหูหนู รอสุก

3. ใส่ผักป่อก้า ชะอม ไข่มดแดง รอสุกเดือด ปิดไฟและปรุงรสตามใจชอบ

8. แกงหน่อไม้ปลาดุก

เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารเหนือที่ชื่นชอบของใครหลายคนเลยค่ะ สำหรับเมนู แกงหน่อไม้ปลาดุก ที่มีขายทั่วไปตามร้านอาหารเหนือ แต่ถ้าใครชอบมากๆ แล้วหาทานยาก ก็ลองทำทานเองซะเลยค่ะ จัดสูตรและขั้นตอนการทำมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ส่วนผสมแกงหน่อไม้ปลาดุก

  • หน่อไม้ดอง
  • เนื้อไก่
  • ใบแมงลัก
  • ใบมะกรูด
  • ต้นหอม
  • น้ำปลา
  • ชูรส
  • น้ำมะขามเปียก9.น้ำปลาร้าเล็กน้อย

เครื่องแกงหน่อไม้ปลาดุก

  • ตะไคร้
  • ข่า
  • กระเทียม
  • พริกแห้ง
  • โขลกทุกอย่างให้ละเอียด

วิธีทำแกงหน่อไม้ปลาดุก

1.หั่นไก่พอคำเตรียมไว้ เด็ดใบแมงลัก ฉีกใบมะกรูด หั่นต้นหอมไว้

2.เอาพริกแกงที่โขลกไว้ละลายกับน้ำในหม้อแล้ว เอาขึ้นตั้งไฟพอเดือดใส่ใส่ไก่ลงไป

3.เดือดอีกครั้งใส่หน่อไม้ดองลงไป พอสักพักปรุงด้วย น้ำปลาชูรส น้ำปลาร้าเล็กน้อย ถ้าใครไม่ชอบปลาร้าไม่ต้องใส่ก็ได้ถ้าแกงหน่อไม้ไม่เปรี้ยวพอก็ใส่น้ำมะขามลงไป ปรุงรสตามชอบ

4.ใกล้จะยกลงใส่ใบแมงลัก ต้อนหอม ใบมะกรูด ลงไปแล้วปิดฝาปิดไฟตักใส่ถ้วย เสร็จแล้ว

9. แกงอ่อม

หอมผักชีลาวมาแต่ไกล กลิ่นนี้เป็นกับข้าวอย่างเดียวเท่านั้นที่นึกถึง นั่นก็คือ แกงอ่อม ที่มีสารพัดผักอยู่ในนั้น กลิ่นที่โดดเด่นก็จะเป็น ผักชีลาว ใบมะกรูด เครื่องแกง และน้ำปลาร้า รสชาติเผ็ดๆ เค็มๆ ตามสไตล์อาหารอีสาน ไปทำตามสูตรนี้ แซ่บนัวแน่นอน

ส่วนผสมแกงอ่อม

  • กระเทียม 6-8 กลีบ
  • ข่าหั่น 3-4 ชิ้น
  • หอมแดง 6-8 ลูก
  • พริก ตามชอบ
  • พริกแห้ง ตามชอบ
  • ตะไคร้ 1 ต้น
  • เนื้อน่องลาย
  • น้ำปลาร้า 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  • ถั่วฝักยาว ตามชอบ
  • ใบมะกรูด 6-9 ใบ
  • ผักชีลาว ตามชอบ

วิธีทำแกงอ่อม

  1. ตำกระเทียม ข่า หอมแดง พริก และพริกแห้ง เข้าด้วยกัน ตำจนละเอียด
  2. นำพริกที่ตำไปผัดในหม้อ ตามด้วยเนื้อน่องลาย ผัดแค่ผิวๆ สุก
  3. ใส่น้ำปลาร้าครึ่งนึงก่อน ผัดให้น้ำปลาร้าซึมเข้าเนื้อ
  4. เติมน้ำเปล่าลงไปแล้วตามด้วยน้ำปลาร้าที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและผงปรุงรส
  5. ใส่ถั่วฝักยาว ใบมะกรูด และผักชีลาว ต้มต่อจนงวดและผักสุก อาจจะเติมพริกสดลงไปด้วยเพื่อความสวยงาม

10. แกงโฮะ

แกงโฮะ เป็นอาหารอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันมากในภาคเหนือ ปรุงจากผักหลายชนิด  โฮะ แปลว่า รวม คือการนำเอาอาหารหลายๆ อย่างมารวมกัน ในสมัยก่อนแกงโฮะมักจะทำจากอาหารที่เหลือหลายๆ อย่างรวมกัน โดยอาจมีการปรุงรสตามใจชอบ หรือ เติมบางอย่าง เช่น วุ้นเส้น หน่อไม้ และแต่งกลิ่นโดยใส่ใบมะกรูด ตะไคร้  ปัจจุบัน นิยมใช้ของสดในการปรุง และใช้แกงฮังเลเป็นเครื่องปรุง

ส่วนผสมแกงโฮะ

  • พริกแกงเผ็ด 1 ถ้วย
  • พริกแกงฮังเล 1 ถ้วย
  • แหนมหม้อ ขยี่ให้กระจาย 2 ถ้วย
  • หน่อไม้ดอง หั่นบางๆ 1 ถ้วย
  • แคบหมู 1 ถ้วย
  • วุ้นเส้น 1 ถ้วย
  • ใบมะกรูด ฉีก 4-5 ใบ
  • ผักตำลึง หั่นยาว 1 ถ้วย
  • ต้นตะไคร้ หั่นฝอย 2 ต้น
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต้ะ
  • พริกสด บด 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม บด 2 ช้อนโต๊ะ
  • มันพืช สำหรับผัด 3 ช้อนโต้ะ

วิธีทำแกงโฮะ

  1. ตั้งกระทะน้ำมัน ผัด กระเทียม ให้หอม ใส่ พริกแกงเผ็ด และ พริกแกงฮังเล ลงไปผัด
  2. นำ แหนม หน่อไม้ดอง แคบหมู ใบมะกรูด ผักตำลึง ตะไคร้ ปรุงรสด้วย น้ำปลา และ น้ำมะนาว ผัดให้เข้ากัน
  3. นำ วุ้นเส้น ลงไปผัดต่อให้วุ้นเส้นสุก เสริฟใส่จาน

11. ไก่นึ่ง (อาหารเหนือ)

ไก่นึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของทางภาคเหนือ หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อหรือรู้จักเป็นเมนูที่สมัยนี้หาทานได้ค่อนข้างยากแล้ว แต่สามารถหาได้ตามตลาดบางแห่ง ไก่นึ่งจะนึ่งด้วยสมุนไพรต่างๆ ทำให้มีความหอมและจะมีความเผ็ดนิดๆ จากพริก ควรทานกับน้ำซุปที่ได้จากการนึ่งไก่

ส่วนผสมไก่นึ่ง (อาหารเหนือ)

  • ไก่ 1 กิโลกรัม
  • พริกแห้ง 7 เม็ด
  • ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 10 กรัม
  • หอมแดง 10 กรัม
  • รากผักชี 3 ราก
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูด 20 กรัม

อุปกรณ์ที่ใช้ ไก่นึ่ง (อาหารเหนือ)

  • ลังถึง

วิธีทำไก่นึ่ง (อาหารเหนือ)

1. นำพริกแห้ง ขมิ้น ข่า กระเทียม หอมแดง กะปิ และรากผักชีโขลกให้ละเอียด

2. นำไก่มาไว้ในชามผสมแล้วนำส้อมมาจิ้มให้ทั่วๆ แล้วตักเครื่องเทศที่เราโขลกไว้มาใส่ลงในชามผสม และใส่น้ำปลา ใบมะกรูดลงไปคลุกคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 20-30 นาที

3. นำลังถึงใส่น้ำตั้งไฟไว้ วางตะแกรงไว้บนภาชนะที่จะนำมารองน้ำที่จะหยดจากไก่และวางไก่ลงบนตะแกงและปิดฝานึ่งไว้จนไก่สุก

4. นำไก่นึ่งมาจัดเสิร์ฟ คู่กับน้ำที่ได้จากการนึ่งไก่

12. ข้าวเงี้ยว (ข้าวกั้นจิ๊น)

อาหารพื้นเมืองจานนี้ หรือเมนูนี้อาจจะไม่สะดุดหูสะดุดตาคนเมืองกรุง หรือคนต่างภาคต่างเมืองสักเท่าไหร่ สำหรับ ข้าวกั้นจิ้น ที่นำมาเสนอและแนะนำนี้ เขาจะใช้ข้าวเจ้าเป็นส่วนผสมหลัก เห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าเป็นอาหารที่แปลกตา ดูแล้วน่าสนใจ และสำคัญที่สุดยังเป็นอาหารพื้นบ้านล้านนาแนะนำอีกหนึ่งเมนู ที่ต้องนำมาบอกต่อให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมข้าวเงี้ยว

  • เนื้อหมูบด 100 กรัม
  • เลือดหมู 1 ถ้วย
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบตะไคร้ 1 กำมือ
  • ข้าวสวย 500 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมเจียว ตกแต่ง

อุปกรณ์ที่ใช้

  • ลังถึง ใบตอง ไม้จิ้มฟัน

วิธีทำข้าวเงี้ยว

1. นำเลือดหมูมาคั้นกับใบตะไคร้เพื่อให้กลิ่นคาวเลือดลดน้อยลงใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

2. เตรียมข้าวใส่ในชามผสมแล้วนำเลือดหมูที่คั้นกับใบตะไคร้ใส่ลงไป

3.ใส่เนื้อหมูบด เกลือ และน้ำตาล ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน

4. นำใบตองวางตักข้าวกั๊นจิ๊นลงไป แล้วพับด้านข้างสองข้างเข้าหากันจากนั้นพับปลายหัวท้ายแล้วนำไม้จิ้มฟันมากลัด

5. นำข้าวกั๊นจิ้นที่ห่อแล้ว ไปนึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที รับประทานพร้อมกระเทียมเจียว

13. ไข่ปาม

คนที่เคยไปเที่ยวภาคเหนือบ่อยๆ น่าจะติดใจไม่น้อยกับเมนู ไข่ป่าม ที่หากินได้ทั่วไปในตลาด เป็นไข่ย่างอยู่ในใบตอง ซึ่งถ้าคุณรู้สูตรแล้วจะต้องร้องเลยว่า เฮ้ย ทำง่ายแค่นี้เอง เรามาลองดูวิธีทำไปพร้อมกันได้เลย

ส่วนผสมไข่ป่าม

  • 1.ไข่ไก่ 3-5 ฟอง
  • 2.ต้นหอม 4-5 ต้น
  • 3.เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • 4.มะเขือเทศ 1 ลูก
  • 5.ใบตอง

อุปกรณ์ที่ใช้ไข่ป่าม

  • กระทะย่าง หรือ ที่ปิ้ง
  •  

วิธีทำไข่ป่าม

1. ห่อใบตองตามคลิบรอไว้

2. ตอกไข่ใส่เกลือใส่มะเขือเทศตีพอเข้ากันดี ตักใส่ใบตองที่พับไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอม นำไปย่างด้วยไฟอ่อนถึงกลางนิดๆ พอไข่สุกเกือบทั้งหมด กลับด้านเพื่อให้มีสีเหลืองจากการย่างอีกนิดหน่อยเป็นใช้ได้

14. คั่วแห้งไก่

เมนูที่จะทำให้คุณอิ่มจนจุก กินกับข้าวนึ่งร้อน ๆ จนต้องขอเพิ่มอีกกระติ๊บหนึ่ง ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน ของเครื่องเทศ ต้มตุ๋นจนเปื่อยแห้ง ให้รสสัมผัสที่นุ่ม ชุ่มช่ำไปด้วยเครื่องเทศ หอมตะหลบอบอวนไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้เมนูคั่วไก่บ้านเป็นอีกเมนูหนึ่งที่สร้างความสัมพันธ์ให้กับคนในครอบครัว เป็นเมนูที่พิเศษที่ทุกคนต้องช่วยกัน ถ้ามีโอกาสได้ทำทุกครั้งมื้อนี้จะเป็นมื้ออาหารที่อร่อยที่สุดที่ทุกคนต่างมากินพร้อมหน้าพร้อมตากัน ด้วยความสนุกสนานและความเอร็ดอร่อย

ส่วนผสมคั่วแห้งไก่

  • ไก่พันธุ์เนื้อ 1 กิโลกรัม
  • ตะไคร้ หั่นท่อนทุบ 1 ต้น
  • ใบมะกรูด 10 ใบ
  • ข่า 5 แว่น
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย

เครื่องแกงคั่วแห้งไก่

  • กระเทียม 10 กลีบ
  • หอมแดง 5 หัว
  • พริกแห้ง 4 เม็ด
  • ขมิ้น
  • กะปิ ย่างไฟ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ลูก/เม็ด ผักชี 3 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 2 หัว
  • พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำคั่วแห้งไก่

1. ตั้งกะทะ (ไม่ใส่น้ำมัน) นำเครื่องแกงที่โขลกไว้ ผัด กับไก่หั่นชิ้น ทั้งหมด คลุกให้เข้ากัน

2.เติมน้ำเปล่า 1 ถ้วย รอเดือดใส่ ตะไคร้ทุบ ใบมะกรูด ข่า คนให้เข้ากัน

3. คนไก่ตลอด จนไก่สุกเนื้อเปื่อย จนน้ำแกงแห้ง ปิดไฟ

4.ปรุงรสตามใจชอบด้วยน้ำปลา โรยผักชีต้นหอม

15. จอผักกาด

จอผักกาด เป็นตำรับอาหารที่ใช้ผักกาดกวางตุ้งที่กำลังออกดอก หรือเรียกว่า ผักกาดจ้อน หรือผักกาดดอก ซึ่งปรุงด้วย เกลือ กะปิ ปลาร้าหรือกะปิ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกหรือมะขามสด ใส่กระดูกหมูด้วยก็ได้ ซึ่งบางแห่งนิยมใส่น้ำอ้อย ลงไปด้วย บางสูตรใส่ถั่วเน่าแข็บ หรือถั่วเน่าแผ่นย่างไฟ นิยมรับประทานกับพริกแห้งทอด ตัดเป็นท่อน โรยหน้าแกง หรือรับประทานต่างหาก แล้วแต่ชอบ

ส่วนผสมจอผักกาด

  • ผักกาดกวางตุ้ง 1 กิโลกรัม
  • ซี่โครงหมู 400 กรัม
  • หอมแดง 5 หัว
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • ถั่วเน่าแข็บย่างไฟ 2 แผ่น
  • กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำจอผักกาด

1. ต้มน้ำเปล่า พอเดือด ใส่ซี่โครงหมูสับ ต้มจนกระทั่งหมูนุ่ม

2. โขลกกระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ รวมกันให้ละเอียด ใส่ลงในหม้อต้มซี่โครงหมู

3. พอเดือด ใส่ผักกวางตุ้งเด็ดเป็นท่อน พอผักนุ่ม ใส่ถั่วเน่าแผ่นโขลกละเอียด

4. ใส่น้ำมะขามเปียก คนให้ทั่ว พอเดือด ปิดไฟ

5. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อน ใส่พริกขี้หนูแห้งลงทอด พอกรอบ ตักขึ้น ใส่กระเทียมสับ เจียวให้เหลือง เททั้งกระเทียมเจียวและน้ำมัน ใส่หม้อจอผักกาด คนให้เข้ากัน

16. ตำบ่าหนุน

ตำขนุน หรือ ตำบ่าหนุน เป็นอาหารที่บางพื้นถิ่น เรียกว่า ตำแต่บางบาง ที่เรียกว่า ยำ เป็นการนำเอาขนุนอ่อนต้มให้เปื่อยเเล้วนำมาโขลกรวมกับเครื่องแกง นำไปผัดกับน้ำมันกระเทียมเจียว ใส่หมูสับ มะเขือเทศ ใบมะกรูด รับประทานควบคู่กับกระเทียมเจียว ผักชีต้นหอมและพริกแห้งทอด ลองมาจิมกั๋นเน้อเจ้า

ส่วนผสมตำบ่าหนุน

  • ขนุนอ่อน 400 กรัม
  • เนื้อหมูสับ 100 กรัม
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเครื่องแกงตำบ่าหนุน

  • พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • หอมแดง 5 หัว
  • ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิหรือถั่วเน่า 1 ช้อนชา
  • ปลาร้า (แล้วแต่ชอบ) 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำตำบ่าหนุน

  1. ก่อนอื่นให้หั่นขนุนอ่อนตามขวาง แล้วนำไปต้มให้เปื่อย ตักขึ้นพักไว้ หลังจากนั้นโขลกขนุนให้ละเอียด โขลกเครื่องแกงที่มีพริกแห้ง กระเทียม หอมแดงไทย ข่า ตะไคร้ ถั่วเน่าแคบ (สามารถใช้กะปิแทนถั่วเน่าได้) เกลือนิดหน่อย โขลกรวมกันให้ละเอียดจนเป็นพริกแกง

  • ตั้งกระทะ เจียวกระเทียมที่โขลกทั้งเปลือกพอเหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่หมูสับ แล้วผัดให้หมูสุก (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อสัตว์)

  • ใส่มะเขือส้มหรือมะเขือเทศที่มีรสออกเปรี้ยว แล้วใส่ขนุนลงผัดให้เข้ากัน ตามด้วยใบมะกรูด โรยผักชีสับ กระเทียมเจียว ใบมะกรูดทอด พริกแห้งทอดกรอบ เพิ่มความครบรสด้วยแคบหมูติดมันกรอบๆ (แต่ระวังเรื่องไขมันด้วยนะ) แค่นี้ก็ได้กับข้าวเมืองง่ายๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ที่สามารถเป็นกิจกรรมในครอบครัว พาลูกๆ ไปเดินตลาดกลับมาทำอาหารร่วมกันได้อีกด้วย

17. แอ็บอ่องออ

แอ็บอ่องออ หรือแอ็บสมองหมู คือการนำสมองหมูสด คลุกเคล้ากับเครื่องปรุง จากนั้นห่อด้วยใบตอง วิธีทำคล้ายแอ็บหมู แอ็บปลา จากนั้นนำไปปิ้งด้วยไฟอ่อนๆ จนสุก รสชาติจะมีความหอมมัน ฟังดูอาจจะน่ากลัว แต่ถ้าได้ชิมรับรองจะติดใจ

ส่วนผสมแอ๊บอ่องออ

  • สมองหมู 500 g
  • หมูบดติดมัน 100 g
  • ไข่ไก่ 1 ใบ
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 4-5 ใบ
  • ใบขมิ้นอ่อน
  • ใบตอง

เครื่องปรุงแอ๊บอ่องออ

  • ตะไคร้ 1 ต้น
  • พริกจินดาแห้ง 6-10 เม็ด
  • กระเทียมไทย
  • หอมแดง
  • ผิวมะกรูด
  • ขมิ้น หั่นแว่นๆ 3
  • กะปิ 1 ชช
  • เกลือ 1/2 ชต

วิธีทำแอ็บอ่องออ

  1. นำอ่องออหมูมาล้างน้ำ โดยเปิดน้ำผ่านเบาๆ เพื่อเอาเศษกระดูกออก พยายามอย่าให้อ่องออแตก แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้
  2. นำในส่วนของเครื่องปรุงทั้งหมดมาโขลกจนละเอียด แนะนำให้โขลก เครื่องจะหอมกว่าปั่นค่ะ
  3. นำเครื่องโขลกมาผสมกับไข่ หมูบด ใบมะกรูดหั่นฝอย ให้เข้ากัน แล้วนำส่วนสมองที่พักไว้มาคลุกให้ทั่ว คนผสมอย่างเบามือ
  4. ตั้งลังนึ่ง ใส่น้ำต้ม
  5. นำใบตองมาฉีกให้ได้ขนาดตามต้องการ รองด้วยใบขมิ้นอ่อน ตักอ่องออปรุงรสวางบนใบขมิ้น จากนั้นพับใบตองให้เป็นสี่เหลี่ยม
  6. ห่ออ่องออจนหมด แล้วนำไปนึ่งในลังนึ่ง ที่ต้มน้ำเดือดแล้ว ด้วยไฟกลาง 10 นาที
  7. จากนั้นนำอ่องออนึ่งมาย่างเพิ่มความหอม ให้สุกตามต้องการ โดยสังเกตุว่าน้ำจะไหลออกมาหากชอบแบบแห้งให้ย่างไฟจนน้ำไม่ไหล คอยพลิกกลับด้าน ตองจะได้ไม่ไหม้ เป็นอันเสร็จ

18. น้ำพริกหนุ่ม

สูตรน้ำพริกของเมืองเหนือที่คนทุกภาคชื่นชอบที่เรารู้จักกันดีอย่าง น้ำพริกหนุ่ม ที่ทานคู่กับแคปหมูอร่อยเหาะ เลยที่เดียว วิธีทำก็ไม่ยากลองไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย

ส่วนผสมน้ำพริกหนุ่ม

  • พริกหนุ่ม 15 เม็ด
  • กระเทียม 5 หัว
  • มะนาว 2 ลูก
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • หอมแดง 5 หัว
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม

  1. นำพริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง มาเผา ให้เกรียม พักไว้ให้เย็นแล้วปอกเปลือก พริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดงออก
  2. นำพริกหนุ่ม กระเทียมและหอมแดงที่ปกเปลือกเสร็จแล้ว มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
  3. เมื่อส่วนผสมเข้าดีแล้ว เติมน้ำตาล มะนาวและน้ำปลาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมถ้าอยากเพิ่มรสชาติไหนเพิ่มลงไปได้เลย

19. น้ำพริกอี่เก๋

น้ำพริกอีเก๋ เป็นเมนูที่รู้จักกันดีของชาวเหนือ วิธีการปรุงก็จะแตกต่างตามความชอบของแต่ละคน ส่วนวัตถุหลักที่ต้องมีคือมะเขือขื่นกับแคบหมู วัตถุดิบเอกลักษณ์ของชาวล้านนา

ส่วนผสมน้ำพริกอี่เก๋

  • มะเขือขื่นซอย 5 ลูก
  • พริกขี้หนูสุก 5 เม็ด
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • ปลาร้า (เป็นตัว หรือ ปลาร้าสับบดก็ได้ตามใจชอบ)
  • น้ำมะกรูด หรือ น้ำมะนาวก็ได้ แต่น้ำมะกรูดมีความหอมในตัว ตามสูตรตายาย ทำทาน 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำพริกอี่เก๋

1. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม รวมกันให้ละเอียด

2. ใส่ปลาร้า น้ำมะกรูด คนให้เข้ากัน เติมน้ำล้างครกเล็กน้อย (บางสูตร โขรกตำแคบหมู ใส่รวม)

3. ใส่มะเขือขื่นซอยบาง ตำให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ ง่ายๆนิยมทานกับหน่อไม้ต้ม

20. ยำจิ้นไก่

  ยำจิ๊นไก่ เป็นเมนูรสชาติเข้มข้นโดยการนำพริกลาบ หรือเครื่องปรุงลาบ มาปรุงยำจิ๊นไก่ได้เลย เป็นอาหารประเภทยำ ที่นำเอาส่วนผสมที่เป็นของที่สุกแล้ว ลงไปผสมกับเครื่องปรุงจนเกิดเป็นแกงน้ำคลุกคลิก เป็นเมนูที่รสชาติเข้มข้นจัดจ้านเลยทีเดียว

ส่วนผสมยำจิ้นไก่

  • ไก่ต้ม 300 กรัม
  • ข่าหั่น 5 แว่น
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • สะระแหน่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • ผักชีต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักไผ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • น้ำต้มไก่ 2 ถ้วย

เครื่องแกงยำจิ้นไก่

  • พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
  • ดีปลีคั่ว 2 เม็ด
  • เม็ดผักชีคั่ว 1 ช้อนชา

วิธีทำยำจิ้นไก่

1. โขลกดีปลี เม็ดผักชีคั่ว และพริกขี้หนูแห้งคั่ว รวมกันให้ละเอียด

2. เจียวกระเทียมกับน้ำมัน ใส่กะปิและปลาร้า เครื่องแกงลงผัดให้หอม

3. ใส่น้ำต้มไก่ พอเดือด ใส่หอมแดงซอย ใส่เนื้อไก่ฉีก

4. โรยด้วยผักชีฝรั่ง ผักชีต้นหอม ผักไผ่และสะระแหน่

ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ใครที่ชอบกินอาหารเหนือลองมาทำกินเองกันเถอะ รับรองรสชาติถูกปาก และกินเยอะแค่ไหนก็ได้ มีเมนูหลากหลายให้เลือกทำ อิ่มคุ้มแน่นอน สำหรับใครที่อยากหารายได้เสริมก็จัดไปเลยค่ะ รับรองขายดิบขายดี

You May Also Like…

ผักพื้นบ้านทั้ง 4 ภาค

ผักพื้นบ้านทั้ง 4 ภาค

สารบัญผักพื้นบ้านคืออะไร ?ประโยชน์ของผักพื้นบ้านผักพื้นบ้านประจำท้องถิ่นภาคเหนือภาคกลางภาคอีสานภาคใต้ หากพูดถึง...